ที่มา : นางสุมิตรา ณ สุวรรณ นักวิชาการตรวจสอบบัญชี 8
จากการสำรวจข้อมูลของผู้ใช้บริการร้านสหกรณ์จำนวน 1,433 รายเทียบกับร้านสะดวกซื้อพบว่า 3 ใน 4
ของผู้ใช้บริการทั้งสิ้นคิดเป็นร้อยละ 77.60 ได้ตอบไปในทิศทางเดียวกันว่าร้านสหกรณ์ดีกว่าร้านสะดวกซื้อขณะเดียว
กันยังพบว่าส่วนมากไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ลูกค้าของร้านสหกรณ์เป็นหญิงมากกว่าชายส่วนใหญ่จะเป็นโสดเรียนจบ
ปริญญาตรีและทำงานราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานของรัฐบาล/รัฐวิสาหกิจ มีรายได้ต่อเดือน 10,001 - 20,000 บาท
นอกจากนี้ได้พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มาใช้บริการร้านสหกรณ์ทุก 1 เดือนมากที่สุดซึ่งเหตุผลที่มาใช้บริการ
ปรากฏว่า ร้อยละ 44.87 ไม่ได้เป็นเพราะใกล้ที่ทำงาน ร้อยละ 79.14 ไม่ได้เป็นเพราะใกล้บ้าน และร้อยละ 87.09
ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีร้านสะดวกซื้ออันเป็นการส่งสัญญาณอย่างมีนัยสำคัญทราบว่า สถานที่ตั้งของร้านสหกรณ์ไม่ได้
เป็นอุปสรรค์ต่อผู้ใช้บริการร้านสหกรณ์แต่ประการใดเหตุผลสำคัญน่าจะเป็นตัวของผู้ใช้บริการเองว่าจะสะดวกเวลาใด
มากกว่า
เมื่อเป็นเช่นนี้ธุรกิจของสหกรณ์อยู่รอดได้จึงขึ้นอยู่กับกำลังและอำนาจในการซื้อสินค้าของลูกค้าที่มาซื้อ
สินค้าและใช้บริการในร้านสหกรณ์ซึ่งมีความสัมพันธ์กันโดยตรงกับการทำงานและรายได้ต่อเดือนโดยวิเคราะห์จาก
ปริมาณธุรกิจของร้านสหกรณ์เป็นตัวชี้วัด ดังนั้นปริมาณธุรกิจจึงเป็นตัวแปรตามและผันแปรตาม 3 ตัวแปรหลัก คือ
จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการความบ่อยของการใช้บริการของลูกค้าและรายได้ต่อเดือนของลูกค้าในการจับจ่ายซื้อสินค้า
ในร้านสหกรณ์ ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่อเดือน 10,001 20,000 บาท และ 5,001 - 10,000 บาท มีสัดส่วนรวมกัน
เกินกว่ากึ่งหนึ่งของลูกค้าทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 62.60 ที่เหลืออีก 3 กลุ่มรายได้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 3.74
อย่างไรก็ตามหาก 3 ตัวแปรหลักคือจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการความบ่อยของการใช้บริการของลูกค้าและ
รายได้ต่อเดือนของลูกค้ามีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้นในแต่ละเดือนยอดขายสินค้าของร้านสหกรณ์ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตาม
ไปด้วยขณะเดียวกันกำไรจากการจำหน่ายสินค้าก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ร้านสหกรณ์มีรอบของการหมุนเวียนใน
สินค้าเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินของร้านสหกรณ์ดีขึ้นโดยที่ไม่ไปจมอยู่กับสินค้าในร้านสหกรณ์นาน
เกินไปตลอดจนโอกาสที่สินค้าถูกระบายขายออกไปมากขึ้นเช่นกัน อีกทั้งลดความเสี่ยงของสินค้าเก่าเก็บ / เสื่อม
คุณภาพ/เสื่อมสภาพ/ชำรุด ลดลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ สินค้า 5 ชนิดที่ลูกค้านิยมซื้อในร้านสหกรณ์มากเป็นอันดับ 1 คือเครื่องอุปโภคบริโภคมีร้อยละ 94.0
อันดับ 2 คือ อุปกรณ์เครื่องเขียน มีร้อยละ 20.45 อันดับ 3 คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย มีร้อยละ 10.40 อันดับ 4 คือ
เครื่องประดับ มีร้อยละ 4.12 อันดับ 5 คือ อุปกรณ์กีฬา มีร้อยละ 3.91 สำหรับด้านบริการที่ลูกค้ามาใช้บริการในร้าน
สหกรณ์พบว่าอันดับแรกคือพนักงานยินดีให้บริการคิดเป็นร้อยละ 52.80 อันดับ 2 คือพนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสมีร้อยละ
52.40 อันดับ 3 คือมีตะกร้า / ถุงใส่สินค้าเหมาะสม / เพียงพอ มีร้อยละ 43.90 อันดับ 4 คือพนักงานพูดจาสุภาพเรียบ
ร้อยมีร้อยละ 39.40 อันดับ 5 คือได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดี มีร้อยละ 34.10 อันดับ 6 คือ การให้บริการรวดเร็วทันใจ
มีร้อยละ 28.40
ส่วนด้านบริการที่ได้รับเพิ่มเติมจากร้านสหกรณ์ที่ลูกค้าพึงพอใจมากเป็นอันดับแรก คือ การรับชำระค่า
สาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ คิดเป็นร้อยละ 60.40 อันดับ 2 คือ เติมเงินโทรศัพท์มือถือ มีร้อยละ
44.30 อันดับ 3 คือ ให้บริการขาย/ให้เช่า CD/เกมส์คอมพิวเตอร์ มีร้อยละ 21.90 อันดับ 4 คือ ให้บริการขาย/ซ่อม
โทรศัพท์มือถือ มีร้อยละ 17.20 อันดับ 5 คือให้บริการซ่อมคอมพิวเตอร์ มีร้อยละ 12.00
ข้อเสนอแนะ
ในการสำรวจความต้องการให้ร้านสหกรณ์จัดบริการเพิ่มเติมที่ผู้ใช้บริการพึงพอใจปรากฏว่าผู้ใช้บริการ
มีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1) ควรสำรวจความต้องการของลูกค้าบ้างให้บริการเหมือนร้านสะดวกซื้อด้วยความสุภาพเต็มใจยิ้มแย้มและ
เป็นมิตรทุกคนไม่เลือกบริการมีเครื่องสแกนสินค้าเพราะจะรวดเร็ว ขยายเวลาการบริการถึง 20.00 น.และเปิด ปิดร้าน
สหกรณ์ให้ตรงตามเวลาตลอดจนแจ้งวิธีรับเงินปันผลด้วย
2) ขายผักสดและสินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษตลอดจนขายข้าวสารของสหกรณ์การเกษตรที่ผลิตขึ้นเอง
หรือขายของโครงการหลวง
3) จัดโปรโมชั่นต่างๆ ลดราคาสินค้าทุกๆ อาทิตย์ให้ถูกกว่าร้านค้าทั่วไป ซึ่งปัจจุบันสินค้าราคาแพงกว่าท้อง
ตลาดลดราคาสินค้ากรณีที่ซื้อเงินสดและผ่อนชำระสินค้าได้ 0% ดูแลสินค้าบนชั้นวางสินค้าไม่ให้ขาดแคลนตลอด
จนรับสั่งสินค้าทางโทรศัพท์พร้อมส่งถึงที่
4) ปรับปรุงขยายร้านสหกรณ์ให้ใหญ่กว่าเดิมโดยจัดร้านแนวใหม่ทั้งระบบให้ลูกค้าสามารถหยิบเลือกดูสินค้า
ได้ด้วยตนเองและจัดให้มีพื้นที่หลากหลาย เช่น มีร้านอาหาร จัดมุมกาแฟและมีโต๊ะนั่งกว้างขวางให้มีเครื่องดื่ม เครื่อง
เขียน อุปกรณ์การกีฬา ชุดชั้นใน เครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย มีบริการรับซักผ้า/ซักแห้ง ของที่เกี่ยวกับเทศกาลต่างๆ
เป็นต้น
5) จัดบริการรับส่งพัสดุภัณฑ์ ส่งโทรสาร/แฟกซ์ ให้บริการถ่ายเอกสารจัดรูปเล่มเอกสารปริ้นงานเอกสารด้วย
คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต
6) ขาย/ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์
7) ให้บริการขาย/ให้เช่าหนังสือทั่วไปและนิยาย หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ขายการ์ดอวยพร เยี่ยมไข้ และแสดง
ความยินดี รวมทั้งรับจัดกระเช้าดอกไม้ กระเช้าของขวัญ กระเช้าเยี่ยมไข้ และของกำนัล
8) ควรเพิ่มสินค้าบริโภคให้หลากหลายชนิดมากขึ้นมีบริการอาหารพร้อมกินอุ่นเสร็จแล้ว เช่น อาหารประเภท
ขนมจีบ ซาลาเปา ไส้กรอก ขนมขบเคี้ยว เป็นต้น ตลอดจนให้บริการอาหารตามสั่งจานด่วนกลางวัน
9) รับชำระบัตรเครดิตประเภทต่างๆ เบี้ยประกันและสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์) ที่เกิน
กำหนดชำระ
