Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์


ภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2551


 

                  ปี 2551 เป็นปีที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้านและมีความรุนแรงมากเป็นประวัติการณ์
     เริ่มต้นด้วยวิกฤตราคาน้ำมันสูงในช่วงครึ่งแรกของปี ติตตามมาด้วยวิกฤตตลาดการเงินโลก       เริ่มต้นปลาย
     ไตรมาสสามเมื่อบริษัท Lehman Brothers วาณิชธนกิจใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องเข้าแผนพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งส่งผล
     กระทบความต้องการสินค้าส่งออกที่ลดลง   และกระทบต่อการส่งออกซึ่งเคยเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจ
     ไทยในรอบหลายปีปรับตัวลงอย่างรุนแรงตามไปด้วย ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจในประเทศก็ขยายตัวในระดับ
     ต่ำทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน สืบเนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้า ส่งผลให้ต้นทุน
     การผลิตและการลงทุนเพิ่มขึ้น   ขณะที่กำลังซื้อของภาคประชาชนลดลง   นอกจากนี้ปัญหาความไม่สงบทาง
     การเมือง  ก็บั่นทอนความเชื่อมั่นให้ลดลงไปยิ่งขึ้น          ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองทำให้การดำเนิน
     มาตรการทางการคลังมีความล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพ ล้วนมีผลต่อเศรษฐกิจประเทศและเศรษฐกิจสหกรณ์
     และกลุ่มเกษตรกรทั้งสิ้น
            ในปี 2551 ภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์ 
     และกลุ่มเกษตรกรโดยรวม ยังคงมีแนวโน้มที่ดี   โดยมี
     จำนวนสมาชิกขององค์กร เพิ่มขึ้นจาก ปี 2550  ร้อยละ
     0.02    และมีปริมาณเงินทุนดำเนินงานค่อนข้างมากถึง
     1 ล้านล้านบาทเศษ     ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.48   
     เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นร้อยละ 11.90 ของ
     ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ     หรือจีดีพี   ทุนของ
     สหกรณ์์สามารถรองรับหนี้กู้ยืมภายนอกได้ถึง 3 เท่าตัว
     โดยทุนของสหกรณ์เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 10.08
     ขณะที่หนี้กู้ยืมภายนอกเพิ่มขึ้นจากปี 2550      เช่นกัน
     เพียงร้อยละ 1.77 ซึ่งถือว่าเพียงพอ    และไม่เสี่ยงต่อ
     การลงทุน




สัดส่วนการลงทุนในปี 2551

  การลงทุน   ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกด้านจากปี 2550 
  ร้อยละ 12.48 โดยลงทุนให้สินเชื่อมากที่สุด 7.9   
  แสนล้านบาท  หรือร้อยละ 79.07  ของเงินทุน
  ดำเนินงานทั้งสิ้น





            ผลประกอบการมีกำไรทุกธุรกิจ  โดยเฉพาะธุรกิจ
     สินเชื่อมีกำไรสูงสุด ร้อยละ 90.89 ของผลประกอบการ 
     ธุรกิจทั้งหมด สมาชิกมีหนี้มากกว่าเงินออมถึง 1.10 เท่า
     แต่ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก    เนื่องด้วยสมาชิกมีอัตราการ
     ออมเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.54   ขณะที่อัตราการเป็นหนี้
     เพิ่มขึ้นมีเพียงร้อยละ 8.38      และมีอัตราหนี้ค้างชำระ
     ลดลงร้อยละ 0.44



สัดส่วนกำไรแต่ละธุรกิจ


            ผลการดำเนินงาน
 
ประสบผลสำเร็จ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 6.90 ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
     เช่นกันเพียงร้อยละ 5.22    มียอดรวมผลกำไร 3.5
  หมื่นล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 14.79   โดย
     จำนวนกลุ่มกำไรลดลงจากปี 2550 เพียงเล็กน้อยร้อยละ 0.70    ขณะที่จำนวนกลุ่มขาดทุนลดลงจากปี 2550
     เช่นกันที่ร้อยละ 25.58  สหกรณ์มีค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้รวมค่อนข้างสูงถึงร้อยละ 81.16   ส่งผลให้กำไรต่อ
     รายได้รวมมีเพียงร้อยละ 18.84
ฐานะทางการเงิน  ยังมีสภาพคล่องตัวและไม่เสี่ยง  โดยมียอดสินทรัพย์หรือทุนดำเนินงาน 1 ล้านล้าน
     บาท  มีทุนของสหกรณ์ 5.2 แสนล้า
นบาท  
และมีหนี้กู้ยืมภายนอกเพียง 1.5 แสนล้านบาท      โดยมีปริมาณ
     เม็ดเงินหมุนเวียนในธุรกิจสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 10.16 

     คุณภาพสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
 ในปี 2551 ระบบการควบคุมภายในมีคุณภาพและอยู่ในระดับที่ค่อนไปทางดี คือ มีคุณภาพอยู่ในระดับ
     ดี-ดีมากร้อยละ 58.76 ระดับพอใช้ร้อยละ 28.41 และระดับควรปรับปรุงมีเพียงร้อยละ 12.83




ดังนั้น คงกล่าวสรุปได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2551  โดย
    รวมยังมีแนวโน้มที่ดี ทุนดำเนินงานและการลงทุนขยายเพิ่มขึ้นทุกด้าน ธุรกิจมีกำไรเพิ่มขึ้น  ฐานะทางการเงิน
    มีสภาพคล่องตัว และไม่เสี่ยงต่อการลงทุน  ทุนของสหกรณ์สามารถรองรับหนี้กู้ยืมภายนอกถึง 3 เท่าตัว และ
    มีกำลังซื้อจากสมาชิกค่อนข้างมากถึง 10 ล้านคนเศษ คิดเป็นร้อยละ 16.72 ของประชากรทั้งประเทศ
  จึงนับ
    เป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง ที่จะสามารถเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจสหกรณ์และประเทศได้ในระดับหนึ่ง

    แนวโน้มเศรษฐกิจ ปี 2552

สำหรับแนวโน้มในปี 2552   คาดว่าปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลก   ยังคงส่งผลต่อเนื่องและอาจจะส่งผลต่อ
    เศรษฐกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้ชะลอตัวลงเล็กน้อย    ทั้งการลงทุน   การบริโภค   และภาระการผ่อน
    ชำระหนี้ของสมาชิก แต่เชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวยังกระทบธุรกิจสหกรณ์น้อยกว่าธุรกิจทั่วไป   และดาคการณ์
    ว่าธุรกิจสหกรณ์ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ต่อเนื่องจากปี 2551 โดยปริมาณธุรกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.67
    หรือเพิ่มเป็น 1.2 ล้านล้านบาท  ในปี 2552
           สำหรับการบริหารเศรษฐกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในปี 2552     ผู้บริหารสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร
    ควรเน้นการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจภายใน    โดยใช้เงินทุนดำเนินงานภายในดำเนินธุรกิจ
    และกำหนดมาตรการเพื่อดูแลผลกระทบต่อทุกภาคส่วนธุรกิจที่อาจได้รับผลกระทบ    และวางกลไกช่วยเหลือ
    สมาชิกสหกรณ์ซึ่งเผชิญราคาผลผลิตลดลงให้สามารถวางแผนการผลิต      และได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม
    รวมทั้งการดูแลสภาพคล่องให้มีเพียงพอ        

                                                                                                           โดย เพยาว์  กิมปฐม

ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 8737 คน จำนวนคนโหวต 20 คน

  จำนวนคนโหวต 20 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
10%
  ให้ 2 คะแนน
0%
  ให้ 3 คะแนน
 
20%
  ให้ 4 คะแนน
 
40%
  ให้ 5 คะแนน
 
30%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel