กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ชูนวัตกรรม Smart4M ช่วยบริหารงานสหกรณ์ครบวงจร ตั้งเป้านำไปใช้ 90% หนุนสมาชิกใช้โปรแกรมตรวจสอบธุรกรรมการเงินของตนเองและสหกรณ์ได้ตลอดเวลา ป้องกันปัญหาการทุจริต สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสหกรณ์
นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตของสหกรณ์ที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชี ตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำให้ความรู้ด้านบริหารการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพและตามระเบียบที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้รับการตรวจสอบบัญชีอย่างโปร่งใส ปราศจากการทุจริต และช่วยดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศ ที่มีกว่า 12 ล้านคน ทั้งนี้ กรมฯ ได้มีมาตรการเร่งด่วนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงินการบัญชีให้สหกรณ์ทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบเงินฝากของสมาชิกในสหกรณ์ทุกแห่งที่มียอดเงินฝากสูงเป็น 10 ลำดับแรก เพื่อดูความเคลื่อนไหวทางบัญชีที่ผิดปกติ และมีมาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ดังนี้
1. ผลักดันให้สหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ใช้งาน Application Smart4M ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาโดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สำหรับการใช้ข้อมูลทางการเงินและการบัญชี รวมทั้งต่อยอดการใช้ข้อมูลจากระบบบัญชีสหกรณ์ครบวงจร เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการเงินการบัญชีให้กับสหกรณ์รวมถึงสมาชิกสามารถตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมและยืนยันข้อมูลของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการทุจริตในสหกรณ์ โดยประสานการทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อสำรวจและประเมินความพร้อมของสหกรณ์ ทั้งนี้ ตั้งเป้าขับเคลื่อนสหกรณ์นำนวัตกรรมไปใช้มากกว่า 90% โดยเฉพาะในสหกรณ์ที่มีทุนดำเนินงานตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จะเร่งผลักดันให้นำนวัตกรรมไปใช้บริหารจัดการสหกรณ์ โดยเริ่มต้นจากสหกรณ์ออมทรัพย์ก่อน สำหรับสหกรณ์ที่ยังไม่มีการใช้โปรแกรมระบบบัญชี กำหนดให้สหกรณ์จะต้องมีการยืนยันยอดกับสมาชิกทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และจะผลักดันให้นำโปรแกรมระบบบัญชีไปใช้ต่อไป
2. ตรวจสอบสหกรณ์ที่ใช้ผู้สอบบัญชีภาคเอกชน หากเกิดประเด็นที่อาจเกิดความเสี่ยงให้ทุกจังหวัดรายงานผล และเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
3. ประสานการทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลในแนวทางเดียวกัน
4. มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1 - 10 ช่วยกำกับดูแลและเตรียมความพร้อม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ทุกจังหวัด ทั้งในด้านทรัพยากรและบุคลากร โดยมีการรายงานให้กรมฯ ทราบโดยเร็วอย่างต่อเนื่อง
5. กรณีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ทุกจังหวัดช่วยประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ เร่งยืนยันยอดลูกหนี้ เงินรับฝากและทุนเรือนหุ้น ส่งข้อมูลกลับมาที่กองกำกับการสอบบัญชีสหกรณ์อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และรัดกุม โดยกรมฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้สมาชิกทราบแล้ว
อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ในรอบหลายปีที่ผ่านมาพบว่า รูปแบบการทุจริตในสหกรณ์ส่วนใหญ่เกิดจากตัวบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับสหกรณ์ หรือการใช้ช่องโหว่ทางเทคโนโลยีของเจ้าหน้าที่สหกรณ์แก้ไขปรับแต่งตัวเลขทางบัญชีเป็นเท็จ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสมาชิก ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นต่อระบบการบริหารจัดการในสหกรณ์ จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้ตรวจสอบบัญชีในการสืบค้นข้อมูลในระบบอย่างละเอียด ดังนั้น เพื่อสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์เอง สมาชิกจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ ตลอดจนหลักการและวิธีการสหกรณ์และการตรวจสอบการเงินการบัญชี รวมถึงการดำเนินการของสหกรณ์ โดยหมั่นตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของตนเองและสหกรณ์อย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชัน Smart Member สำหรับสมาชิกสหกรณ์ตรวจสอบฐานะทางการเงินของตนเองได้ตลอดเวลา สร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกสหกรณ์ในการกำกับดูแลสหกรณ์ ซึ่งการที่สมาชิกช่วยกันตรวจสอบในเบื้องต้นและแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ ก็จะช่วยลดปัญหาการทุจริตได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้จัดตั้งทีมตรวจสอบเฉพาะกิจ โดยมีผู้บริหารและคณะทำงานที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้สอบบัญชีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อิทธิพลในพื้นที่ หรือสหกรณ์ที่มีเหตุสงสัยว่าจะทุจริตและสหกรณ์ที่ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เพื่อปรับกระบวนการสอบบัญชีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย |