การลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์เสี่ยงแค่ไหน

นุจรินทร์ ตรีมงคล
กลุ่มวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร

การลงทุนที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันคือการนำเงินที่มีอยู่ไปซื้อหลักทรัพย์หรือตราสาร หรือที่เรียกกันว่า เงินลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่าดอกเบี้ยรับจากการนำเงินไปฝากกับสถาบันการเงิน แต่การลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ หมายถึง การนำเงินที่สหกรณ์ออมทรัพย์มีไปลงทุนในลูกหนี้ คือการปล่อยเงินให้สมาชิกและสหกรณ์อื่นกู้ยืม รวมทั้งการลงทุนในรูปแบบของเงินลงทุนทั้งที่อยู่ในความต้องการของตลาดและไม่อยู่ในความต้องการของตลาด

สหกรณ์ออมทรัพย์ที่รวบรวมข้อมูลได้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 1,378 แห่ง มีการลงทุนรวม จำนวนเงิน 2.74 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการปล่อยเงินให้สมาชิกกู้

โดยส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้เงินให้กู้ยืมแก่สมาชิกคงเหลือระยะยาว ที่ครบกำหนดชำระหนี้เกินกว่า 1 ปี ถือเป็นการลงทุนที่สหกรณ์ออมทรัพย์ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ทันที ต้องรอรับชำระหนี้เป็นงวดๆ ตามจำนวนงวดในสัญญาเงินกู้ที่กำหนดไว้

ในขณะที่ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมแก่สมาชิกคงเหลือระยะสั้น ที่ครบกำหนดชำระหนี้ภายใน 1 ปี มีลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ร้อยละ 7.35 ของลูกหนี้เงินให้กู้ยืม แก่สมาชิกคงเหลือระยะสั้น ซึ่งสูงกว่าภาพรวมหนี้เสียของสถาบันการเงินในไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 3.14% ต่อสินเชื่อรวม (ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย) ดังนั้น สหกรณ์ออมทรัพย์มีความเสี่ยงด้านการปล่อยกู้

สหกรณ์ออมทรัพย์มีเงินลงทุนระยะยาว ที่ต้องถือไว้ให้ครบกำหนดเวลาเกินกว่า 1 ปี มากกว่า เงินลงทุนระยะสั้น เกือบ 4 เท่า โดยส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนที่อยู่ในความต้องการของตลาด ลำดับแรกเป็นหุ้นกู้/ตั๋วเงิน (ตราสารหนี้) ภาคธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่เป็นบริษัทต่างๆ ในขณะที่เงินลงทุนที่ไม่อยู่ในความต้องการของตลาด ส่วนใหญ่เป็นหุ้นทุน/ทุน (ตราสารทุน) ชุมนุมสหกรณ์/สหกรณ์ ดังนั้น สหกรณ์ออมทรัพย์มีความเสี่ยงด้านเงินลงทุน กรณีไถ่ถอนหรือขายก่อนครบกำหนดเวลา อาจได้รับเงินน้อยกว่าเงินที่ลงทุนหรือขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนได้ และหากบริษัท ชุมนุมสหกรณ์หรือสหกรณ์ ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ไปลงทุนไว้ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ สหกรณ์ออมทรัพย์อาจได้รับเงินคืนล่าช้า หรือไม่ตรงตามกำหนดเวลาไถ่ถอน

การลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ภาพรวม คิดเป็นร้อยละ 90 ของสินทรัพย์ทั้งสิ้น หากสหกรณ์ออมทรัพย์ต้องการใช้เงินสดเพื่อการชำระหนี้ระยะสั้น หรือสมาชิกมาถอนเงินฝาก สหกรณ์ออมทรัพย์อาจมีเงินสดไม่เพียงพอ เนื่องจากลงทุนระยะยาวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งไม่สามารถนำมาเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที ดังนั้น สหกรณ์ออมทรัพย์ยังคงมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ภาพรวมยังคงมีรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม รายได้ผลตอบแทนจากเงินลงทุน และกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน ร้อยละ 83, 11 และ 1 ของรวมรายได้ดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากการลงทุน ในขณะที่มีขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน เพียงร้อยละ 0.3 ของรวมค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเงินลงทุน

ข่าว/บทความยอดนิยม

ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด

ข่าว/บทความล่าสุด

	Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
	สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
	วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
	บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
	ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร

	ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
	กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
	“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
	มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
	สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %

	สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
	สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
	สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
	หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
	สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์