Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 
ชุมชนบ้านผารังหมี เข้มแข็งด้วยการทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุน
อาชีพ เพราะมีครูบัญชีเป็นต้นแบบ
 

     นางสุดใจ ชมภูมี เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม ประจำปี 2560 ผู้นำบัญชีมาใช้ใน
การบริหารจัดการภาคครัวเรือน ภาคการเกษตร และการสร้างเครือข่ายในชุมชนให้รู้จักการทำ
บัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ จนทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างเป็นระบบ
 
     นางสุดใจ ชมภูมี เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาบัญชีฟาร์ม ปี 2560 จากชุมชนบ้านผารัง
หมี ตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีอาชีพทำนาและทำ
เกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่กันไป เช่น การทำนาข้าวปลอดภัย การผลิตปุ๋ย การผลิต
ฮอร์โมนพืช การทำน้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน โดยมีการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุน
อาชีพในทุกกิจกรรมที่ทำ ซึ่งปกติมีความสนใจทำบัญชีเพื่อจดบันทึกรายรับรายจ่ายในการทำนา
เป็นประจำอยู่แล้ว แต่มาจริงจังเมื่อปี 2543 เนื่องจากหมู่บ้านได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านมั่งมีศรี
สุขจากกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งให้มีการทำบัญชีเพื่อเป็นตัวชี้วัด จำนวน 33 ครัวเรือน ซึ่งตนก็ได้
สมัครเข้าร่วมโครงการในครั้งนั้นด้วย ทำให้เริ่มเรียนรู้เรื่องการทำบัญชีอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา
พร้อม ๆ ไปกับทำหน้าที่ช่วยสอนแนะให้คนอื่น ๆ ในหมู่บ้านรู้จักการทำบัญชีด้วย

     จนกระทั่งในปี 2550 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้เข้ามาให้คำแนะนำในการจดบันทึกบัญชีครัว
เรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพ ซึ่งมีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อจดบันทึกแล้วทำให้รู้มากกว่า
กำไรขาดทุน แต่สามารถแยกกิจกรรมที่เราทำได้อย่างละเอียด ทำให้เรารู้ถึงกิจกรรมที่เราทำมาก
ขึ้น ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ วางแผนการผลิตได้เป็นอย่างดี จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการ
ศูนย์เรียนรู้โครงการพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำหลักการทรงงานมาปรับใช้กับหลักสูตร
กิจกรรมลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ มีการทำบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุนอาชีพ และส่งเสริมกลุ่มอาชีพ
เพิ่มรายได้ เช่น กลุ่มทำปุ๋ยหมัก กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า กลุ่มนาข้าว
ปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับเลือกจาก ธกส. ให้เป็นวิทยากรหมอหนี้สอนการทำบัญชี
ครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพให้กับเกษตรกรผู้พักชำระหนี้ และติดตามการจัดทำบัญชี พร้อมให้
คำแนะนำปรึกษาด้านอาชีพและการทำบัญชีให้กับชาวบ้านในชุมชน รวมถึงทำหน้าที่ช่วยตรวจ
บัญชีให้กับชาวบ้านและเกษตรกรที่เข้าประชุมกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในแต่ละเดือนอีกด้วย .

    "การชักชวนให้ชาวบ้านมาสนใจจดบันทึกบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพต้องสร้างแรง
จูงใจ ซึ่งในเบื้องต้น มีแนวทางว่าหากใครทำบัญชีต่อเนื่องและนำมาให้คณะกรรมการกลุ่มตรวจ
บัญชีทุกเดือนก็จะมีรางวัลมอบให้ เช่น มอบเมล็ดพันธุ์ผักให้ไปปลูก ต่อมาได้พัฒนาเป็นธนาคาร
ความดี เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชาวบ้านนำสมุดบัญชีมาให้คณะกรรมการกลุ่มตรวจสม่ำเสมอ หาก
คนไหนนำสมุดบัญชีมาตรวจ 1 ครั้ง จะมีคะแนนให้ 50 คะแนน และหากมีการร่วมกิจกรรม
สาธารณะประโยชน์อื่น ๆ ในชุนชน จะได้ 20 คะแนน เป็นต้น เมื่อครบ 1 ปีก็จะนำคะแนนมารวม
กัน และมีรางวัลมอบให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจสำหรับผู้ที่มีคะแนนสะสมสูงสุดและคะแนนในลำดับ
รองลงมาตามลำดับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจและได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็น
อย่างดี เป็นการสร้างแรงจูงใจให้ชาวบ้านมาสนใจจดบันทึกบัญชีกันมากขึ้น อีกทั้งการที่เราได้
ช่วยตรวจสมุดบัญชีให้กับชาวบ้าน ก็จะช่วยให้ทราบว่าในแต่ละครัวเรือนมีสภาพเศรษฐกิจเป็น
อย่างไร เพื่อที่คณะกรรมการกลุ่มจะได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ และช่วยให้คำแนะนำว่าสิ่งไหนควร
ลด สิ่งไหนควรเพิ่ม เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้คงเหลือที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้สภาพเศรษฐกิจของ
ชุมชนโดยภาพรวมดีขึ้นอีกด้วย” นางสุดใจ กล่าว

     นางสุดใจ กล่าวต่ออีกว่า จากการช่วยสอนแนะให้กับคนในชุมชนได้รู้จักการทำบัญชีครัว
เรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถลดภาระ
หนี้สินจากสิ่งที่ไม่จำเป็น รู้จักการวิเคราะห์ในการลดต้นทุนในการทำนาและการประกอบอาชีพ
เสริมอื่น ๆ รู้จักการนำวัตถุดิบที่มีในพื้นที่ มาทำสิ่งทดแทนปัจจัยการผลิตเพื่อลดต้นทุน ซึ่งทำให้
ได้คุณภาพและปริมาณที่สูงขึ้น ส่งผลให้คนในชุมชน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รู้จักประมาณตน ช่วย
เหลือซึ่งกันและกัน ผลพวงจากการที่คนในชุมชนจดบันทึกบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และเป็นชุมชน
หนึ่งซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ของ ธ.ก.ส. จึงทำให้ทาง ธ.ก.ส. พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยให้กับชาวบ้านที่
เป็นลูกหนี้ จากเดิมอัตราร้อยละ 7% เหลือเพียงร้อยละ 4% เพียงลูกหนี้นำสมุดจดบันทึกทาง
บัญชีไปแสดงและสามารถอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ที่จดบันทึกได้ รวมถึงโครงการเงินกู้ของกลุ่ม
อาชีพต่าง ๆ ของชุมชนเอง ก็มีการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยให้กับผู้ที่นำสมุดจดบัญชีมาแสดงต่อ
คณะกรรมการกลุ่มอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

     กระทั่งในปี 2560 นางสุดใจ ชมภูมี ได้รับคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขา
บัญชีฟาร์ม ซึ่งถือว่าเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต โดยนางสุดใจยังคงทำหน้าที่ในการสอน
บัญชีต้นทุนอาชีพ และบัญชีครัวเรือนให้แก่เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป
อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ภายในศูนย์เรียนรู้ฯ และร่วมเป็นวิทยากรให้กับศูนย์ฯ อื่น ๆ
โดยมีเทคนิคในการถ่ายทอดเพื่อให้ผู้เข้าอบรมสนใจด้านบัญชีคือ การยกตัวอย่างจาก
ประสบการณ์จริงของตัวเองไปถ่ายทอด พร้อมกับให้ทุกคนที่มาอบรมช่วยกันคิด
วิเคราะห์จากการยกตัวอย่างการประกอบอาชีพบนแผ่นกระดาษ โดยให้บันทึกทุกกิจกรรม,
ที่ทำ แล้วช่วยกันคิด วิเคราะห์ตั้งแต่เริ่มต้น ว่าจะต้องวางแผนการผลิตอย่างไร ต้องทำอย่างไรให้
ต้นทุนลดลงและมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้เข้าใจง่ายและมองเห็นภาพที่ชัดเจน และ
ทำให้ผู้อบรมเห็นว่าการจดบันทึกบัญชีไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้เข้าอบรมมีความ
สนใจแล้วนำไปปฏิบัติได้จริง

     "จากการถ่ายทอดทางบัญชีด้วยจิตอาสามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปัจจุบัน คนในชุมชนมี
ความสนใจจดบันทึกบัญชีครัวเรือนเพื่ออุดรูรั่วที่ไม่จำเป็น และจดบัญชีต้นทุนอาชีพ เพื่อให้รู้ต้น
ทุน รู้กำไร ขาดทุน และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง มั่นคงทั้งทาง
เศรษฐกิจและสังคม ลดอบายมุข และในฐานะที่เป็นครูบัญชีและเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ก็ยัง
จะพยายามกระตุ้นให้ชาวบ้านบันทึกบัญชีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นแผนพัฒนาตนเอง พัฒนาหมู่
บ้าน พัฒนาอาชีพของเราได้เป็นระบบ ซึ่งเป็นความภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้ ช่วยให้ชาวบ้านรู้จักตัว
เอง และสามารถกำหนดทิศทางของตัวเองได้ จึงอยากฝากให้ทุกคน ทุกอาชีพ ให้ความสำคัญ
กับการจดบันทึกบัญชี และทำให้เป็นนิสัย เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของทุกกิจกรรมที่ทำ แล้วเราจะทราบ
ว่าสิ่งไหนต้องปรับลดหรือต้องเพิ่ม เพื่อให้มีรายได้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น” นางสุดใจ ฝากทิ้งท้าย.

 
 
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel