Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 
             เวลาช่างผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เพิ่งจะสิ้นปี 2550 ไม่ทันไร ก็เวียนมาบรรจบถึงครึ่งปี 2551 ของภาวะ 
เศรษฐกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในรอบ 6 เดือนแรกกัน ซึ่งเป็นช่วงที่เผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ และการเมือง 
หากแต่ธุรกิจสหกรณ์โดยรวมได้รับผลกระทบน้อยมาก และดำเนินธุรกิจไปได้อย่างราบรื่น   โดยมีทุนดำเนินงาน 
เพิ่มขึ้น 13 % ส่งผลธุรกิจโตขึ้น 11 % และมีกำไรเพิ่มขึ้น 15 % เมื่อเทียบครึ่งปี ’50 การเงินมีสภาพคล่องมั่นคง
และไม่เสี่ยง   ทุนของสหกรณ์สามารถรองรับหนี้ภายนอกได้ถึง  3.08 เท่า     สมาชิกสหกรณ์เป็นหนี้ลดลง 4 %
ออมเพิ่มขึ้น 10 %  เมื่อเทียบกับครึ่งปี ’50  ของช่วงเวลาเดียวกัน     และคาดว่าธุรกิจสหกรณ์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 
ล้านล้านบาท  เมื่อสิ้นปี 2551 พร้อมแนะยึดหลักพึ่งตนเอง มีวินัยในการใช้จ่าย  หันมาทำบัญชีรายรับ   รายจ่าย 
และบัญชีต้นทุนอาชีพ ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ

ทุนดำเนินงาน 9 แสน 8 หมื่นล้านบาท

        ทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้น 13 %  เมื่อเทียบกับ
ครึ่งปี ’50 และคิดเป็น 22 %  ของ GDP ประเทศ 
โดย 52 %  เป็นทุนของสหกรณ์  สามารถรองรับ
หนี้ภายนอกได้ถึง 3.08 เท่า แสดงถึงความเข้มแข็ง   
และเพียงพอต่อการดำเนินงาน    และไม่เสี่ยงต่อ
การลงทุน แต่อย่างไรก็ตามอีก 31 %     ของทุน
ดำเนินงาน เป็นเงินรับฝากที่มีระยะฝากไม่เกิน 12 
เดือน    ที่ต้องระมัดระวังหากเกิดมีการถอนคืนเงิน
ดังกล่าวในจำนวนมาก อาจส่งผลต่อการบริหารงาน
ของสหกรณ์ได้

                                                                                    ปริมาณธุรกิจสหกรณ์ 1 ล้านล้านบาท

        ธุรกิจสหกรณ์โดยรวมโตขึ้น 11 % เมื่อเทียบกับ
ครึ่งปี ’50 หากพิจารณาแนวโน้มปริมาณธุรกิจสหกรณ์
รอบ 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2548-50) พบว่า ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี  จาก 8 แสน  8 หมื่นล้านบาทเศษ
ในปี 2548  เป็น  9 แสน 9 หมื่นล้านบาท   ในปี 2550
และคาดว่าสิ้นปี ’51   ธุรกิจสหกรณ์จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
ต่อเนื่องเป็น 1 ล้าน 1 แสนล้านบาท     ด้านการลงทุน
ขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อเทียบกับครึ่งปี ’50    โดย
ลงทุนด้านสินเชื่อมากที่สุด คิดเป็น 79%   ของเงินทุน
ดำเนินงานทั้งสิ้น อีก 12 % ลงทุนในตราสาร/หุ้นและสินทรัพย์ถาวร และ 9 % ลงทุนในสินค้าและอื่นๆ นั่น
ย่อมหมายถึงรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจสินเชื่อ
เป็นสำคัญ

  กำไร 3 หมื่น 4 พันล้านบาท

     ครึ่งปี ’ 51 ธุรกิจสหกรณ์มีกำไร 3 หมื่น 4 พันล้าน
บาทเศษ หรือ 19 % ของรายได้ทั้งสิ้น เพิ่มขึ้น 15% 
เมื่อเทียบกับครึ่งปี’50 รายได้ 88% จากธุรกิจสินเชื่อ
มากที่สุด 8%  จากธุรกิจซื้อ-ขาย 3%      จากธุรกิจ
แปรรูปอีก 1 % จากธุรกิจให้บริการ สมาชิก มีหนี้สิน
เฉลี่ย 67,861 บาทต่อคน ลดลง 4 % และมีเงินออม  
เฉลี่ย 66, 957 บาทต่อคน  เพิ่มขึ้น
10 % เมื่อเทียบ
กับครึ่งปี ’51 อย่างไรก็ตามสมาชิกให้ความสำคัญกับ
การขอกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้น   ย่อมสะท้อนถึงรายได้ที่เพิ่ม
ขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับลูกหนี้สมาชิกมีวินัยทาง
การเงินเป็นสำคัญ

 

การเงินคล่องตัว ไม่เสี่ยง

         ครึ่งปี ’51 สถานะทางการเงินของสหกรณ์และ
กลุ่มเกษตรกรยังมีความคล่องตัว และไม่เสี่ยง โดยมียอด
สินทรัพย์รวม 9 แสน 8 หมื่นล้านบาทเศษ มีปริมาณธุรกิจ
หมุนเวียนในรอบปี 1 ล้านล้านบาท ทุนของสหกรณ์ 5 แสน
ล้านบาทเศษ และมีหนี้ภายนอกเพียง 1 แสนล้านบาทเศษ
โดยมีหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด (NPL) 4 %
ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ถือว่ายังคล่องตัว และไม่เสี่ยง
 
 
 
 
 

63 % คุณภาพสหกรณ์อยู่ในชั้น 1-2 (ดี-ดีมาก)

             คุณภาพการควบคุมภายในของสหกรณ์ช่วงครึ่งปี ’51 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยส่วนใหญ่ 63 %  อยู่
ในระดับชั้น 1-2 (ดี-ดีมาก) 26 %  อยู่ระดับชั้น 3 (พอใช้)    และ อีก 11 % อยู่ระดับชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน ชั้น 4
(ควรปรับปรุง) เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่จัดจ้างพนักงานบัญชี โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กทำให้มีผลต่อการบริหารธุรกิจ

ครึ่งหลังปี ’51 ธุรกิจโตขึ้น 11 %

 
            ผลดำเนินงานครึ่งปี ’51 โดยรวมส่วนใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงเชื่อมั่นได้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหกรณ์ไทย
อีก 6 เดือนหลังถึงสิ้นปี ’ 51 จะดำเนินต่อเนื่องไปด้วยดี ธุรกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 ล้านล้านบาท ทรัพย์สิน
เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้น 3 % พร้อมชี้แนะให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ยึดหลักพึ่งตนเอง
และเพิ่มความรอบคอบในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ชัดเจน  ครบถ้วนสมบูรณ์  โปร่งใส    คำนึงถึง
ประโยชน์ของสหกรณ์และสมาชิกเป็นหลัก พร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้การดำเนินธุรกิจชะลอตัวและหยุดชะงัก ตลอดจนกระตุ้นให้สมาชิกเข้าใจและหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มีวินัยในการ
ใช้จ่าย  อยู่ในความไม่ประมาท  หันมาทำบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีต้นทุนอาชีพ ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ
ที่มา : เพยาว์  กิมปฐม
 
ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 7500 คน จำนวนคนโหวต 12 คน

  จำนวนคนโหวต 12 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
8%
  ให้ 2 คะแนน
 
8%
  ให้ 3 คะแนน
0%
  ให้ 4 คะแนน
 
8%
  ให้ 5 คะแนน
 
75%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel