Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 
"สิรวิชญ์ มิไพทูล” เกษตรกรรุ่นใหม่ จ.เพชรบูรณ์ ใช้บัญชีวางแผนการผลิต ปรับเปลี่ยนแนวคิดใช้ตลาดนำ

       จากนโยบายการพัฒนาการเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิต และยกระดับมาตรฐานสินค้า โดยขับเคลื่อนผ่านนโยบายสำคัญ 15 เรื่อง อาทิ เกษตรแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นต้น ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมา พบว่า ปี 2560 ครัวเรือนภาคการเกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามภาคการเกษตรยังมีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ผลผลิตล้นตลาด ต้นทุนการผลิตสูง ประสบภัยแล้ง น้ำท่วม เป็นต้น ซึ่งสาเหตุมาจากเกษตรกรไทยยังขาดปัจจัยสำคัญ 3 ด้าน คือ ขาดความรู้ ขาดเงินทุน และไม่มีตลาดรองรับ จึงกำหนดนโยบาย "ตลาดนำการผลิต " ซึ่งจะเป็นแนวทางให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรวางแผนการผลิตเพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาด

   "นายสิรวิชญ์ มิไพทูล”เกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี 2560 อายุ 26 ปี เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่นำระบบตลาดนำการผลิตมาปรับใช้ในการทำสวนมะม่วง ทำให้สามารถผลิตมะม่วงนอกฤดูเพื่อส่งออกต่างประเทศได้ตลอดทั้งปี และผลผลิตได้ตามมาตรฐาน GAP นอกจากนี้ยังนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ในการวางแผนการผลิต และทำหน้าที่เป็นครูบัญชีประจำศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ สอนแนะการบันทึกบัญชีให้แก่เกษตรกรและคนในชุมชน และเปิดกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออกให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจ

       "แต่เดิมครอบครัวทำไร่ข้าวโพด แต่ด้วยต้นทุนการผลิตสูง ทำให้ได้กำไรน้อย ไม่คุ้มกับการลงทุน จนกระทั่งปี 2531 จึงหันมาปลูกมะม่วงพันธุ์พื้นบ้าน ได้แก่ เขียวเสวย แรด และหนองแซง แต่รายได้ก็ยังน้อยอยู่ ต่อมาเห็นว่าการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นที่ต้องการของตลาดจึงทดลองปลูกและประสบความสำเร็จ และได้มีการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรภายในชุมชนเพื่อส่งออกขายตลาดในประเทศ ทำให้ได้ผลผลิตตามความต้องการของตลาด และมีอำนาจ
ในการต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง”
         ต่อมาในปี 2553 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออก เพื่อรวบรวมผลผลิตในการส่งออกตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย และได้มีการพัฒนารูปแบบการเกษตรให้เป็นแบบ GAP หรือการทำการเกษตรแบบปลอดภัย ทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ เป็นต้นแบบของประเทศไทยในการทำการเกษตรแบบ GAP ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์เพชรบูรณ์ ได้เข้าไปให้คำแนะนำการจดบันทึกบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ทำให้สิรวิชญ์เห็นว่าการปลูกมะม่วงในแต่ละช่วงมีความแตกต่างกัน การปลูกมะม่วงในฤดูเพื่อส่งออกภายในประเทศได้กำไรน้อย เนื่องจากมีคู่แข่งมาก จึงคิดต่อยอดมาเป็นการปลูกนอกฤดูและส่งออกต่างประเทศ เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง ทำให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น โดยนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์และคิดค้นหาวิธีลดต้นทุนการผลิตทั้งการทำปุ๋ยหมัก การทำไส้เดือนดิน และการผสมธาตุอาหารใช้เอง เพื่อนำมาใช้ทดแทนสารเคมีทางการเกษตรที่มีราคาสูง
        จากการเห็นถึงประโยชน์ของการทำบัญชี จึงอยากจะถ่ายทอดความรู้เรื่องบัญชีให้กับเกษตรกรได้รู้และเข้าใจและเห็นถึงประโยชน์ของการทำบัญชี จึงได้สมัครเข้าร่วมเป็นครูบัญชีอาสา ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และจัดตั้ง ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร อำเภอหนองไผ่ เพื่อถ่ายทอดความรู้การจัดทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
         "บัญชี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่าจะวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราไปในรูปแบบไหน และควรจะวางแผนชีวิตไปในทิศทางใด เช่นเดียวกับการทำการเกษตร ข้อมูลทางบัญชีก็จะเป็นตัวพยากรณ์ล่วงหน้าได้ว่าควรจะวางแผนการผลิตอย่างไรต่อไป รวมทั้งการนำหลัก 3 คิด 4 รู้ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ 1.คิดจำแนก ทำให้รู้รายได้ รู้รายจ่ายของตนเอง 2.คิดปะติดปะต่อ เปรียบเทียบรายได้ รายจ่าย ทำให้รู้หนี้สิน ฝึกนิสัยการใช้จ่ายเงิน และ 3.คิดหลักบัญชี ทำให้รู้ทิศทางอนาคตของตนเอง สร้างนิสัยการออม ถ้าเราทำได้ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต”สิรวิชญ์ กล่าว.

เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel