Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 

            ในยุคของฟ้ามิอาจกั้นเช่นปัจจุบัน  องค์กรต่างๆ ทั่วทุกมุมโลกล้วนกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การแข่งขัน
   ด้วยการสร้างมูลค่าให้กับองค์กรมากขึ้น   แต่ละองค์กรเน้นประสิทธิภาพทางการผลิตพร้อมกับหาวิธีการสร้าง
   ความพึงพอใจให้กับลูกค้าเพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร และสามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับผู้มีส่วนได้เสีย
   กับองค์กร ( Stakeholders) ทั้งหมด   ดังนั้น  ผู้บริหารขององค์กรจึงได้พยายามปรับเปลี่ยนวิธีการวัดผลการ
   ดำเนินงานด้วยการนำแนวคิดของมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ ( Economic Value Added : EVA) มาประยุกต์ใช้
   ในการเพิ่มมูลค่า และสร้างศักยภาพให้แก่องค์กร ซึ่งมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจเป็นแนวคิดของการสร้างผล
   ตอบแทนที่ได้จากเงินที่ลงทุนไปให้สามารถชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Costs) รวมทั้ง
   ต้นทุนเงินทุน (Cost of Capital) ทั้งหมดได้ ซึ่งต่างจากการวัดผลทางการเงินในปัจจุบันที่ประเมินผลการ
   ดำเนินงานตั้งอยู่บนพื้นฐานของกำไรที่คำนวณขึ้นภายใต้หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป โดยไม่ได้นำค่าเสีย
   โอกาสซึ่งเป็นต้นทุนในส่วนของทุนมาคำนวณ จึงเป็นเพียงผลกำไรทางบัญชีที่ยังไม่สะท้อนมูลค่าเพิ่มขององค์กร

สูตร   มูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ = กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี - ต้นทุนเงินทุน

   เริ่มต้นที่ความหมายของการสร้างมูลค่า


             มูลค่าขององค์กร คือ มูลค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรนั้นทำอยู่ และมูลค่าของสินค้าและบริการ คือ
   มูลค่าปัจจุบันที่วัดจากตัวกระแสเงินสุทธิที่จะได้ในอนาคต องค์กรที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าและบริการ
   ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง    องค์กรเหล่านี้มักมีความสามารถในการแข่งขันสูงควบคู่กับการมีแนวทางในการป้องกัน
   คู่แข่ง และสร้างความได้เปรียบให้กับองค์กรของตนเอง ดังนั้นถ้าองค์กรใดไม่สามารถกำหนดวิธีการวัดผล  และ 
   ประเมินผลการดำเนินงานที่บ่งชี้ถึงมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจแล้ว องค์กรนั้นจะไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มหรือกำไร  
   เชิงเศรษฐกิจได้เลย 
            
นอกจากการที่สหกรณ์ต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การออกแบบการ
   หีบห่อบรรจุภัณฑ์ คุณภาพของสินค้าและบริการที่มีความต่างที่ดีกว่าคู่แข่ง เป็นต้น สิ่งสำคัญสหกรณ์ต้องรู้ว่ากลุ่ม
   ลูกค้าคือใคร และมีช่องทางการตลาดอย่างไร  ปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญต่อการประเมินกลยุทธ์ เนื่องจากมูลค่า
   เพิ่มนั้นจะช่วยค้นหาจุดกลยุทธ์ที่จะสามารถสร้างผลกำไรให้เกิดขึ้นภายในสหกรณ์ได้ การประยุกต์ใช้การวิเคราะห์
   มูลค่าเพิ่มอย่างเหมาะสมจะช่วยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าเพิ่มของสหกรณ์อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อ
   ติดตามผลการปฏิบัติงานว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นหรือถดถอย

   สหกรณ์กับการสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ

             นับเป็นเวลากว่า 90 ปี ที่ประเทศไทยนำระบบสหกรณ์มาใช้เป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งในการแก้ไขปัญหา
   ให้แก่เกษตรกร สหกรณ์จัดเป็นหน่วยเศรษฐกิจอีกรูปแบบหนึ่งที่มีการทำธุรกรรมทั้งในด้านการเงิน การจำหน่าย
   สินค้า การรวบรวมผลิตผล และการให้บริการ โดยมีเป้าหมายเช่นเดียวกับธุรกิจทั่วไปที่ต้องการให้สหกรณ์สามารถ
   ยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงทั้งด้านการเงิน และได้รับความศรัทธาจากผู้มีส่วนได้เสีย คือ สมาชิก เจ้าหนี้ และ
   เจ้าหน้าที่ี่สหกรณ์ โดยสหกรณ์ต้องสามารถสร้างรายได้ให้คุ้มกับค่าใช้จ่าย  เพื่อนำไปขยายธุรกิจให้เติบโต 
   รวมทั้งผลตอบแทนที่คืนให้กับสมาชิก แม้ว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักมองว่าสหกรณ์จะไม่ใช่หน่วยเศรษฐกิจที่
   แสวงหาผลกำไรเป็นหลัก ดังนั้น อาจทำให้คิดไปว่าสหกรณ์ไม่มีความจำเป็นที่ต้องสร้างมูลค่าให้กับตัวสหกรณ์
   แต่จริงๆ แล้ว สหกรณ์จำเป็นที่ต้องมีกำไรเชิงเศรษฐกิจ   ซึ่งหมายถึงรายได้ที่เพียงพอครอบคลุมต้นทุนและ
   ค่าใช้จ่ายทั้งหมด และที่สำคัญกว่านั้นรายได้เหล่านั้นต้องครอบคลุมถึงผลตอบแทนที่สมาชิกต้องการ ในฐานะ
   ผู้ใช้บริการและผู้เป็นเจ้าของทุนด้วย ถ้าหากสหกรณ์ใดขาดวัฒนธรรมในการสร้างมูลค่าก็อาจจะนำไปสู่ปัญหา
   ความมั่นคงของสหกรณ์ในอนาคตได้ 
            จึงอาจกล่าวได้ว่า การสร้างมูลค่าให้กับสหกรณ์เองควรเป็นวัฒนธรรมที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องหันมา
   ให้ความสนใจ และควรแยกความแตกต่างระหว่างความจำเป็นในการสร้างมูลค่ากับการแบ่งปันกำไรกันในหมู่
   สมาชิกและผู้เกี่ยวข้องทางผลประโยชน์ สหกรณ์จำเป็นต้องสร้างมูลค่า   หรือกำไรเชิงเศรษฐกิจให้เพียงพอ
   ไม่ใช่จะมองเพียงผลกำไรทางบัญชีด้านเดียว มิฉะนั้นแล้ว สหกรณ์ก็อาจจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว 
   เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน ลูกหนี้ด้อยคุณภาพ เงินทุนลดและกินทุนตัวเอง  ในที่สุดอาจถึงต้อง
   ล้มละลาย  และที่สำคัญในที่สุดจะทำให้สมาชิกตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องขาดความเชื่อมั่นในสหกรณ์ต่อไป


สนใจรายละเอียด ติดตามได้จาก
“นวัตกรรมวัฒนธรรมการสร้างมูลค่าให้กับสหกรณ์: กรณีของสหกรณ์การเกษตร”

หรือที่ http://statistic.cad.go.th


ที่มา : ส่วนวิจัยและพัฒนาสารสนเทศทางการเงิน
ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 9655 คน จำนวนคนโหวต 34 คน

  จำนวนคนโหวต 34 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
6%
  ให้ 2 คะแนน
 
12%
  ให้ 3 คะแนน
 
15%
  ให้ 4 คะแนน
 
29%
  ให้ 5 คะแนน
 
38%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel