"เริ่มไตรมาสแรกของปี 2558 ภาพรวมเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทย ขยายตัวอยู่ที่ 1.08% สร้างรายได้ เพิ่มขึ้น 1.55% และทำกำไรเพิ่มขึ้น 4.47 % สมาชิกมีการก่อหนี้พร้อมกับการออมเงินในอัตราที่ใกล้เคียงกัน คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 2/2558 เศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยโดยรวมฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขยายตัวอยู่ที่ 1.08 % เพิ่มขึ้นจากไตรมาส ที่แล้วขยายตัว 0.58 % โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจการให้บริการส่งเสริมการเกษตร และธุรกิจการรับฝาก เงินที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผลยังคงหดตัว เนื่องมาจากปัญหาภัยแล้งประกอบกับ ราคาพืชผลการเกษตรไม่ดีนัก อย่างไรก็ดีธุรกิจโดยรวมยังคงทำรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น จากการรวบรวมข้อมูล (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558) สหกรณ์ไทยทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 11,110 แห่ง ประกอบด้วย 1) กลุ่มสหกรณ์ ภาคการเกษตร 3,837 แห่ง 2) กลุ่มสหกรณ์นอกภาคการเกษตร 3,129 แห่ง และ 3) กลุ่มเกษตรกร 4,144 แห่ง มีสมาชิกผู้รับบริการรวมทั้งสิ้น 12.35 ล้านคน คิดเป็น 18.97% ของประชากรไทยทั้งประเทศ (ณ 31 มีนาคม 2558 ประชากรไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคนเศษ) มีเงินทุนดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 2.43 ล้านล้านบาท แต่ละกลุ่ม มีรายละเอียด ดังนี้
1.กลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร
"ไตรมาสแรกปี 2558 ธุรกิจภาคการเกษตรหดตัว 0.14 % ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาที่แล้ว หดตัว อยู่ที่ 1.34 % เนื่องมาจากธุรกิจการลงทุนเกือบทุกด้านหดตัวลง ยกเว้นธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายและธุรกิจ การให้บริการและส่งเสริมการเกษตรที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายขยายตัวมากกว่ารายได้ ส่งผลให้กำไร หดตัว ส่วนด้านสมาชิกมีหนี้สินเฉลี่ยขยายตัวมากกว่าเงินออมเฉลี่ย
ภาคการเกษตรมีทุนกว่า 2.22 แสนล้านบาท ประกอบธุรกิจลงทุน 5 ธุรกิจ มีปริมาณธุรกิจรวม 3.24 แสนล้านบาท โดยธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผลมีปริมาณสูงสุดจำนวน 8.87 หมื่นล้านบาท (27.42%) หรือ คิดเฉลี่ย 13,253 บาทต่อคน รองลงมา ธุรกิจสินเชื่อ (26.68%) ธุรกิจรับฝากเงิน (22.29%) ธุรกิจจัดหาสินค้า มาจำหน่าย (23.44%) และธุรกิจให้บริการส่งเสริมการเกษตร (0.17%) ตามลำดับ ธุรกิจโดยรวมหดตัวร้อยละ 0.14 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว มีรายได้รวมทั้งสิ้นกว่า 1.90 แสนล้านบาท ขยายตัว 0.04% ส่วนค่าใช้จ่าย รวม 1.85 แสนล้านบาท ขยายตัว 0.05% คิดเป็น 97.64 % ของรายได้รวมทั้งสิ้น และมีกำไรสุทธิโดยรวม 4,471.03 ล้านบาท หดตัว 0.61% ทั้งนี้ สมาชิกมีเงินออมเฉลี่ย 15,601 บาทต่อคน ขยายตัว 0.12% ขณะที่ หนี้สินเฉลี่ย 21,710 บาทต่อคน ขยายตัว 0.23% โดยหนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 1.39 เท่าของเงินออมเฉลี่ย
2.สหกรณ์นอกภาคการเกษตร
"ไตรมาสแรกปี 2558 ธุรกิจนอกภาคการเกษตรขยายตัว 1.32 % เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ขยายตัว อยู่ที่ 0.77 % ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจการให้บริการและส่งเสริมการเกษตร และธุรกิจการรับฝากเงินที่เพิ่มขึ้น มีรายได้ขยายตัวมากกว่าค่าใช้จ่าย ส่งผลให้มีกำไรเพิ่มขึ้น ส่วนสมาชิกระมัดระวังการใช้จ่ายเงิน โดยที่สมาชิกมีเงินออมเฉลี่ยขยายตัวมากกว่าการก่อหนี้สินเฉลี่ย
นอกภาคการเกษตร มีทุนดำเนินงานรวมกว่า 2.2 ล้านล้านบาท ประกอบธุรกิจลงทุน 5 ธุรกิจ เช่นกัน ส่วนใหญ่เน้นธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจรับฝากเงินเป็นหลักคล้ายธนาคาร ธุรกิจโดยรวมขยายตัว 1.32 % เมื่อ เทียบกับไตรมาสที่แล้ว ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจการให้บริการและส่งเสริมการเกษตรเพิ่มขึ้น 10.72 % และ ธุรกิจการรับฝากเงินเพิ่มขึ้น 7.38 % พบว่า ธุรกิจสินเชื่อมีปริมาณธุรกิจสูงสุด 1.08 ล้านล้านบาท (65.24%) หรือคิดเฉลี่ย 2.12 แสนบาทต่อคน รองลงมาคือ ธุรกิจรับฝากเงิน (33.98%) และอื่นๆ (0.78%) ตามลำดับ มี รายได้รวม 1.46 แสนล้านบาท ขยายตัว 3.90% ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวม 9.31 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 3.32% และมีกำไรสุทธิรวม 5.26 ล้านบาท ขยายตัว 4.94% ส่วนสมาชิกมีเงินออมเฉลี่ย 295,598 บาทต่อคน ขยายตัว 4.39% ส่วนหนี้สินเฉลี่ย 324,681 บาทต่อคน ขยายตัว 1.78% โดยที่หนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 1.1 เท่าของเงินออมเฉลี่ย
3.กลุ่มเกษตรกร
"ไตรมาสแรกปี 2558 ธุรกิจขยายตัว 0.38 % เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วหดตัวอยู่ที่ 0.94 % มาจาก ธุรกิจการให้เงินกู้และธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผลเพิ่มขึ้น มีค่าใช้จ่ายหดตัวมากกว่ารายได้ ส่งผลกำไรเพิ่มขึ้น ส่วนสมาชิกก่อหนี้สินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เงินออมเฉลี่ยลดลง
กลุ่มเกษตรกร มีทุนดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 3,645.83 ล้านบาท ประกอบธุรกิจลงทุน 5 ธุรกิจคล้ายกับ ภาคเกษตร ธุรกิจโดยรวมขยายตัว 0.38 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ปัจจัยสำคัญมาจากธุรกิจการให้เงิน กู้ยืมขยายตัว 0.53 % และธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผลขยายตัว 0.87 % พบว่า ธุรกิจรวบรวม/แปรรูปผลิตผล มีปริมาณสูงสุดจำนวน 7,068 ล้านบาท (69.24%) หรือคิดเฉลี่ย 12,438 บาทต่อคน รองลงมาคือ ธุรกิจสินเชื่อ (17.56%) ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย (10.60%) และอื่นๆ (2.60%) ตามลำดับ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 8,673.39 ล้านบาท หดตัว 3.13% ส่วนค่าใช้จ่ายรวม 8,547.02 ล้านบาท หดตัว 3.18% มีกำไรสุทธิรวม 126.37 ล้านบาท ขยายตัว 0.29 % ส่วนสมาชิกมีเงินออมเฉลี่ย 1,753 บาทต่อคน หดตัว 1.13 % และมีหนี้สินเฉลี่ย 3,659 บาทต่อคน ขยายตัว 0.50 % โดยที่หนี้สินเฉลี่ยคิดเป็น 2.08 เท่าของเงินออมเฉลี่ย สัดส่วนค่อนข้างสูง |