Sorry, your browser does not support JavaScript!
W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 
จีระศักดิ์ อุราสาย
            กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ริเริ่มให้มีการศึกษาเพื่อกำหนดมาตรฐานการจัดขนาดสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรขึ้นในปี 2546 มีวัตถุประสงค์เพื่อจำแนกขนาดสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มต่างๆ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เหมาะสม วัตถุประสงค์ของการจัดขนาดสหกรณ์ก็เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดความยุ่งยากซับซ้อนของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร และนำไปสู่การวางแผน กระจายงานให้กับผู้ตรวจสอบบัญชี นอกจากนี้หน่วยงานภายนอกอื่น เช่น กรมส่งเสริมสหกรณ์ หรือสันนิบาตสหกรณ์อาจนำข้อมูลขนาดสหกรณ์ไปใช้ในการกำหนดนโยบาย หรือแผนปฏิบัติการได้อย่างเหมาะสม ในปี 2554 นี้ หลายท่านอาจสงสัยว่าการหาขนาดสหกรณ์นั้นมีที่มาหรือใช้หลักการอะไร คำตอบคือ เนื่องจากข้อมูลทางการเงินของสหกรณ์ในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมายจนเราไม่อาจตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใช้ตัวแปรใดบ้าง ถึงตอนนี้เป็นหน้าที่ของพระเอกในท้องเรื่องคือสถิตินั่นเอง เราใช้เทคนิคการทดสอบทางสถิติวิธีหนึ่ง เพื่อค้นหาและยืนยันว่าตัวแปรใดบ้างที่ส่งผลหรือมีอิทธิพลต่อการจัดขนาดสหกรณ์มากที่สุดหรือกล่าวอีกแบบหนึ่งคือตัวแปรใดจะใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดขนาดสหกรณ์ ซึ่งผมขอหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงรายละเอียดการทดสอบที่ยุ่งยากซับซ้อนและไม่มีความจำเป็นต้องนำเสนอในที่นี้จึงขอแสดงเพียงผลการทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายออกมาดังตารางข้างล่างครับ

            จากตารางข้างต้นขออธิบายแบบนี้ครับ มีตัวแปรสามตัวคือ ทุนดำเนินงาน รายได้ธุรกิจหลักและจำนวนสมาชิก ที่มีผลการทดสอบทางสถิติเป็นค่าน้ำหนัก (Factor Loading) สูงสุดสามอันดับแรกในกลุ่มที่ 1 และเมื่อพิจารณาในรูปกราฟจะเห็นว่าตัวแปรทั้งสามตัวดังกล่าวเกาะกลุ่มกันใกล้กับแกนนอนมากกว่าตัวแปรอื่นๆ ที่เหลือ แสดงว่าตัวแปรทั้งสามได้แก่ ทุนดำเนินงาน รายได้จากธุรกิจหลัก และจำนวนสมาชิก มีอิทธิพลหรือส่งผลต่อการจัดขนาดสหกรณ์มากที่สุดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 % เราจึงนำตัวแปรหรือปัจจัยทั้งสามตัวที่ผ่านการคัดเลือกนั้น ไปเข้าสู่กระบวนการสร้างช่วงชั้นเพื่อแบ่งแยกสหกรณ์ออกเป็นขนาดที่แตกต่างกันต่อไป
          เป็นยังไงบ้างครับกับการได้รู้ที่มาที่ไปหรือต้นกำเนิดของเกณฑ์การจัดขนาดสหกรณ์ ก่อนหน้านี้หลายท่านคงสงสัยว่าการหาขนาดสหกรณ์มีหลักการหรือแนวคิดเชิงวิชาการรองรับมากน้อยเพียงใดหลังจากอ่านบทความสั้นนี้จบลงคงได้คำตอบไปบ้างไม่มากก็น้อยนะครับว่ามีการใช้หลักการทางสถิติเข้ามาช่วยค่อนข้างมาก ถ้าปราศจากแนวคิดทางสถิติเราคงไม่มีเครื่องมือหรือหลักการคิดที่เป็นระบบและเป็นที่ยอมรับมาช่วยเราตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ เช่นนี้ได้ครับ.
ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
สหกรณ์ไทย ...คืนกำไรสู่สมาชิก 80.52 %
รายงานภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 4/2555
ครัวเรือนภาคสหกรณ์ออมเงินเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 12.34%
ภาวะเศรษฐกิจภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 3/2557
เสถียรภาพทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปี 2556
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 12325 คน จำนวนคนโหวต 23 คน

  จำนวนคนโหวต 23 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
 
4%
  ให้ 2 คะแนน
 
4%
  ให้ 3 คะแนน
 
4%
  ให้ 4 คะแนน
 
13%
  ให้ 5 คะแนน
 
74%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel